Category Business, Business Insights November 20, 2025 การนำโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์แต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกับ 4 ประเทศ ที่มีธุรกิจแฟรนไชส์ชั้นนำ (สหรัฐอเมริกา, เกาหลีใต้, อินเดีย, ไต้หวัน) ในด้านมูลค่าตลาด อัตราการเติบโต จำนวนแบรนด์แฟรนไชส์ และกลุ่มธุรกิจหลัก ดังแสดงในตารางด้านล่าง โดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น สมาคมแฟรนไชส์สากล (IFA), สมาพันธ์แฟรนไชส์เกาหลี (KFA/KFTC), สมาคมแฟรนไชส์อินเดีย (FAI), กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ไทย) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศ: ประเทศ มูลค่าตลาดแฟรนไชส์ (Franchise Market Value) อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Avg. Growth Rate) จำนวนแบรนด์แฟรนไชส์ (# of Franchise Brands) กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์หลัก (Main Franchise Segments) ไทย (Thailand) >฿300,000 ล้านต่อปี (ประมาณ 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ~15–20% ต่อปี (โดยเฉลี่ย) <br/>(ปี 2566 เติบโตราว 10%) businesscoach.co.th ~609 แบรนด์ (ปี 2566)businesscoach.co.th (เพิ่มจาก 552 แบรนด์ในปี 2565 ~10%) อาหารและเครื่องดื่ม (ร้านอาหาร, เครื่องดื่ม) เป็นหมวดใหญ่สุดbusinesscoach.co.th; ธุรกิจบริการต่างๆ (เช่น การศึกษา, ซักอบรีด, สุขภาพ/ความงาม) รองลงมาbusinesscoach.co.th; ธุรกิจค้าปลีก (ร้านสะดวกซื้อ, ค้าปลีกเฉพาะทาง) ก็มีบทบาทสำคัญbusinesscoach.co.th สหรัฐอเมริกา (USA) ~$860.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2023) ~4.2% ต่อปี (คาดการณ์ปี 2023) (GDP ภาคแฟรนไชส์โตใกล้เคียง 4%) ~3,400 แบรนด์แฟรนไชส์ (อันดับ 3 ของโลก) ธุรกิจอาหารบริการด่วน (QSR/Fast Food) และธุรกิจบริการต่างๆ เป็นเซ็กเมนต์แฟรนไชส์ที่ใหญ่และเติบโตสูงในสหรัฐฯ นอกจากนี้แฟรนไชส์ยังแพร่หลายในธุรกิจค้าปลีก, การบริการส่วนบุคคล, ยานยนต์, อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เกาหลีใต้ (S. Korea) ~108.8 ล้านล้านวอน (ปี 2023) (≈85 พันล้านดอลลาร์)(100.1 ล้านล้าน ในปี 2022) ~8.4% (อัตราเติบโตปี 2023) (ปี 2022 โตสูงถึง ~18% หลังโควิด-19) ~12,429 แบรนด์ (ปี 2023) (เพิ่มขึ้น ~4.9% จากปี 2022, สูงสุดในโลก) อาหารและเครื่องดื่มเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่แพร่หลายที่สุด (เช่น ร้านอาหาร, คาเฟ่, ไก่ทอด) ตามด้วยธุรกิจบริการต่างๆ (เช่น ซาลอน, ขนส่ง) และค้าปลีก (โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ) (ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารคิดเป็นกว่า 55% ของสาขาแฟรนไชส์ทั้งหมดในประเทศ) อินเดีย (India) ~800 พันล้านรูปี (ประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ~30–35% ต่อปี (อุตสาหกรรมแฟรนไชส์อินเดียเติบโตเร็วมาก) >4,600 แบรนด์ (อันดับ 2 ของโลก) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) เป็นหมวดใหญ่ที่สุด ~35% ของแบรนด์ทั้งหมด (เช่น ร้านฟาสต์ฟู้ด, คาเฟ่ชา); รองลงมาคือแฟรนไชส์ด้านการศึกษา/ฝึกอบรม และค้าปลีก/บริการต่างๆ (เช่น แฟชั่น, ดูแลสุขภาพ เป็นต้น) ไต้หวัน (Taiwan) ~NT$800 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันต่อปี (ประมาณ 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) (ประมาณการอุตสาหกรรม) ~5–6% (อัตราขยายจำนวนสาขาแฟรนไชส์ปี 2022 +5.8%) (จำนวนแบรนด์ปี 2022 หดตัวเล็กน้อย -0.6%) ~2,872 แบรนด์ (ปี 2022) (ใกล้เคียง 3,300 แบรนด์ในปี 2020) ธุรกิจแฟรนไชส์กระจายในหลายอุตสาหกรรม ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม (ร้านกาแฟ, ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด), ค้าปลีก (ร้านสะดวกซื้อ, ช้อปปิ้ง), และบริการความงาม/สุขภาพและการศึกษา เป็นต้น (ตลาดไต้หวันมีแบรนด์ทั้งท้องถิ่นและแบรนด์ต่างชาติชื่อดังอยู่หนาแน่น) แนวโน้มช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและหลังโควิด-19 ประเทศไทย: ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่ารวมเพิ่มจากไม่ถึง 200,000 ล้านบาทเมื่อสิบปีก่อนมาเป็นกว่า 300,000 ล้านบาทในปัจจุบัน อัตราการเติบโตเฉลี่ย ~15-20% ต่อปีสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ช่วงโควิด-19 จะส่งผลต่อภาคบริการบ้าง แต่หลังโควิดแฟรนไชส์ไทยฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะหมวดอาหารที่ยังขยายสาขาทั่วประเทศ และภาครัฐยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนามาตรฐานและขยายไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สหรัฐอเมริกา: อุตสาหกรรมแฟรนไชส์สหรัฐฯ ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโรคระบาดได้อย่างแข็งแกร่งหลังโควิด-19 โดยปี 2022 มีการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์อย่างโดดเด่น และในปี 2023 ขนาดเศรษฐกิจภาคแฟรนไชส์คาดว่าจะสูงกว่าช่วงก่อนโควิดอย่างชัดเจน มีการเพิ่มหน่วยแฟรนไชส์ใหม่ ~15,000 แห่งในปี 2023 (+1.9%) และจ้างงานเพิ่มกว่า 250,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ แฟรนไชส์สหรัฐฯ ยังคงเป็นสัดส่วนราว 3% ของ GDP ประเทศ และจ่ายค่าจ้างเฉลี่ยสูงกว่าธุรกิจ SME ทั่วไป ~3% แนวโน้มหลังโควิดเน้นไปที่การปรับตัวด้านดิจิทัลและการส่งอาหาร/เดลิเวอรีในธุรกิจอาหาร บวกกับการเติบโตในธุรกิจบริการเฉพาะทางต่างๆ เช่น การดูแลผู้สูงอายุ บริการถึงบ้าน เป็นต้น. เกาหลีใต้: ธุรกิจแฟรนไชส์เกาหลีใต้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงหลังโควิด-19 โดยเฉพาะปี 2022 ที่ยอดขายร้านแฟรนไชส์พุ่งขึ้นถึง +18.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูล) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาสินค้า/บริการสูงขึ้น และการบริโภคหลังการปลดล็อกดาวน์ จากนั้นในปี 2023 ยอดขายยังเติบโตต่อเนื่อง ~8% ขณะที่จำนวนแบรนด์แฟรนไชส์ก็เพิ่มขึ้นทุกปี เช่น ปี 2023 มีแบรนด์ ~12,429 แบรนด์ (+4.9%) ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ เทรนด์สำคัญในตลาดเกาหลีใต้คือการแข่งขันที่สูงในหมวดคาเฟ่เครื่องดื่มและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งผู้เล่นต้องสร้างจุดขายแปลกใหม่ตลอดเวลา นอกจากนี้บริการเดลิเวอรี่อาหารและแพลตฟอร์มออนไลน์กลายเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้แฟรนไชส์ยังเติบโตได้ดีในยุคหลังโควิด โครงสร้างตลาดแฟรนไชส์เกาหลีมีความเป็นเมืองสูง – กว่า 55% ของร้านแฟรนไชส์ทั้งหมดเป็นร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งบ่งชี้ถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมความสะดวกรวดเร็ว. อินเดีย: ตลาดแฟรนไชส์อินเดียในช่วง 5 ปีหลังเติบโตแบบก้าวกระโดด เป็นหนึ่งในประเทศที่ฟื้นตัวและขยายตัวเร็วที่สุดหลังยุคโควิด-19 ปัจจุบันอินเดียถูกจัดเป็นตลาดแฟรนไชส์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก (รองจากสหรัฐฯ และจีน) โดยมีอัตราการเติบโตปีต่อปีสูงถึง~30-35% การขยายตัวนี้มาจากทั้งการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อและจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่ที่หันมาซื้อแฟรนไชส์มากขึ้น ข้อมูลปี 2023 ระบุว่าอุตสาหกรรมแฟรนไชส์อินเดียมีมูลค่าราว 800 พันล้านรูปี และคิดเป็นประมาณ 2% ของ GDP ประเทศ สร้างงานไปกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ดและร้านชาเครื่องดื่มได้รับความนิยมสูงสุด (สัดส่วนประมาณ 35% ของแฟรนไชส์ทั้งหมด) ขณะที่กลุ่มการศึกษา (เช่น โรงเรียนอนุบาล, สถาบันสอนทักษะ) และค้าปลีกบริการก็เติบโตเร็วเช่นกัน แนวโน้มหลังโควิดยังชี้ว่าตลาดอินเดียจะขยายถึง ~$100 พันล้านภายในปี 2024 และ $140-150 พันล้านใน 5 ปีข้างหน้า ตามการคาดการณ์ในรายงานปี 2023 ไต้หวัน: ธุรกิจแฟรนไชส์ในไต้หวันมีความอิ่มตัวและแข่งขันสูง แต่ก็ยังเติบโตอย่างยั่งยืน ในช่วงโควิด-19 ไต้หวันได้รับผลกระทบน้อยในระยะแรก แต่เมื่อเกิดการระบาดระลอกใหญ่ในปี 2022 ยอดขายภาคบริการ (รวมอาหาร, ท่องเที่ยว, ค้าปลีก) ดิ่งลงกว่า 50% ชั่วคราว อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการจำนวนมากได้ปรับตัวโดยนำระบบดิจิทัลและบริการเดลิเวอรี่เข้ามาเสริม ทำให้หลังผ่านจุดวิกฤต ธุรกิจแฟรนไชส์กลับมาเติบโตต่อเนื่อง — จำนวนสาขาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น +5.8% ในปี 2022 แม้ว่าจำนวนแบรนด์จะลดลงเล็กน้อย (-0.6%) จากการคัดกรองแบรนด์ที่ไม่แข็งแรงออกไป ปัจจุบันแฟรนไชส์คิดเป็นสัดส่วนสำคัญในเศรษฐกิจค้าปลีกและบริการของไต้หวัน โดย ยอดขายของธุรกิจเครือข่ายและแฟรนไชส์คิดเป็นประมาณ 48% ของมูลค่าการค้าปลีกและอาหารทั้งหมด หมวดแฟรนไชส์หลักยังคงเป็นร้านอาหารเครื่องดื่มและร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่ทุกหัวมุมถนน ผนวกกับธุรกิจแฟรนไชส์บริการความงาม สุขภาพ และการศึกษาที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทิศทางในอนาคต คาดว่าแฟรนไชส์ไต้หวันจะมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมสินค้า/บริการและการรุกตลาดต่างประเทศ (โดยอาศัยแบรนด์ดังอย่างเช่นชาไข่มุก หรือร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ) เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมต่อไป. อ้างอิงแหล่งข้อมูล: IFA (US), KFTC/KFA (Korea), FAI & Economic Times (India), กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (ไทย), Taiwan Chain Stores & Franchise Association (Taiwan) และแหล่งข่าวธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ประกอบความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีก และ แฟรนไชส์ ติดต่อบรรยายได้ที่ บริษัท บิสิเนส โค้ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด เลขที่ 872/10 หมู่บ้านเดอะริชเอกชัย ถนนเอกชัย แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150 099-615-2647 / 02-450-1335 contact@coachandconsulting.com