ภาพรวมของการกระจายระบบแฟรนไชส์ในตลาดสากล

ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์

1. การเปลี่ยนแปลงศูนย์กลางของระบบแฟรนไชส์

ยุคการพัฒนาธุรกิจจากอังกฤษ ’
19 British Century

การพัฒนาระบบอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้เครื่องจักรเกิดขึ้นจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในอังกฤษต่อเนื่อง ทำให้มีอิทธิพลของระบบธุรกิจในช่วงปี 1815–1914 โดยได้รับการเรียกว่าเป็นช่วงของ Britain's Imperial Century หรือการสร้างอาณาจักรของจักรภพอังกฤษ เมื่อรูปแบบการค้าเปลี่ยนไป การพัฒนาลักษณะการค้าที่เน้นรูปแบบระบบการบริการ และการกระจายตัวสู่พื้นที่ในต่างประเทศมากขึ้น รูปแบบธุรกิจที่เน้นการบริหารเชิงขยายให้เป็นหลักทำให้ อังกฤษซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นพัฒนาให้มีการสร้างระบบแฟรนไชส์เพื่อการขยายต่างประเทศ ส่งผลให้ระบบแฟรนไชส์เติบโตในประเทศอเมริกามากกว่า และทำให้ระบบแฟรนไชส์จากอังกฤษที่มีการพัฒนาภายหลังจากระบบอเมริกันไม่สามารถขยายตัวธุรกิจแฟรนไชส์ในทั่วโลกได้ทัดเทียมกับธุรกิจแฟรนไชส์สหรัฐ

ยุคธุรกิจแฟรนไชส์อเมริกาขยายตัว (’20 American Franchise Century)

ในยุคการขยายระบบแฟรนไชส์จากอเมริกา ที่ถือว่าเป็นต้นแบบระบบธุรกิจแฟรนไชส์ของโลก และเป็นช่วงของระบบธุรกิจอเมริกันได้มีการแผ่อิทธิพลทั่วโลก เรียกว่าเป็นช่วงของ American Century ลักษณะสำคัญของช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ในช่วงกลางของทศวรรศที่ 20 หรือประมาณปี 1950-1980 เนื่องจากระบบการเมืองวัฒนธรรมของอเมริกาได้เป็นแบบอย่างของแนวคิดทันสมัย และมีปัจจัยด้านการเมืองที่ขยายอิทธิพลมาสู่เขตพื้นที่เอเชียมากที่สุด ระบบแฟรนไชส์เริ่มจากมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเข้ามาสู่การใช้ชีวิตประจำวันของคนอเมริกันเช่น รถยนต์ที่เพิ่มการเดินทางให้ประชาชนมากขึ้น การมีรูปแบบการให้บริการด้านไฮเวย์ที่สร้างรูปแบบสินค้าอาหารจานด่วน รูปแบบการใช้ตู้ทำความเย็นในบ้าน การมีโทรทัศน์ที่มีอิทธิพลจากโฆษณามากขึ้น ทำให้การใช้ชีวิตที่ต้องมีร่วมกับงานด้านบริการที่เน้นความรวดเร็วกลายเป็นระบบธุรกิจทันสมัยของสังคม และเริ่มมีการกระจายรูปแบบธุรกิจที่เป็นระบบสาขาต่อเนื่องสร้างรูปแบบการลงทุนการจัดการธุรกิจแฟรนไชส์จึงกลายเป็นระบบการจัดการที่ได้รับความนิยมของอเมริกา และเปิดทางให้ธุรกิจที่ขยายตัวได้ในประเทศมีโอกาสขยายสู่ประเทศข้างเคียงมากยิ่งขึ้น ธุรกิจแฟรนไชส์จึงกลายเป็นระบบธุรกิจที่มีอิทธิพลต่อเนื่อง

ในช่วงที่ธุรกิจในประเทศอื่นที่มีการพัฒนารูปแบบโดยมีแฟรนไชส์อเมริกันเป็นผู้นำตลาด การสร้างระบบแฟรนไชส์ของประเทศต่างๆเป็น ประเด็นคัญที่ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีกระจายทั่วโลกและมีระบบธุรกิจเริ่มปรับมาสู่พื้นที่ที่มีลักษณะวัฒนธรรมใกล้เคียงซึ่งมีแนวโน้มการสร้างอิทธิพลมากกว่าการรับเอาวัฒนธรรมโดยตรงจากอเมริกา ระบบแฟรนไชส์จึงมีการก้าวกระโดยสู่ประเทศต่างๆเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับระบบแฟรนไชส์ในประเทศอเมริกาได้มีการขยายตัวไปสู่ทุกพื้นที่แล้ว จึงเปิดโอกาสให้แฟรนไชส์ในประเทศอื่นเพิ่มขึ้นทดแทนในพื้นที่เขตอื่นเพิ่มขึ้น

ยุคการพัฒนาแฟรนไชส์เอเชีย (’30 Asian Franchise Century)

ในยุคการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ในกลุ่มประเทศเอเชียที่มีการพัฒนาธุรกิจและเป็นศูนย์กลางการค้าที่เริ่มมีอิทธิพลของตลาดโลก ที่เรียกว่า The Asian Century เป็นช่วงในทศวรรษที่ 21 (21st-century) ที่คาดว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดเอเชียจะเข้ามาแทนที่อิทธิพลการค้าของ สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ในช่วงปี 2011 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ AD B The Asian Development Bank พบว่า แนวโน้มการพัฒนาคุณภาพชิวิตของคนเอเชียเริ่มเทียบเท่าประชากรในยุโรปมากขึ้น ซึ่งการพัฒนารูปแบบดังกล่าวส่งผลให้เกิดการพัฒนาระบบธุรกิจแฟรนไชส์ต่อเนื่องเพื่อรองรับการบริโภคและรูปแบบการลงทุน

ความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ในเอเชียขึ้นกับความสามารถรักษาอัตราการเติบโตของระบบธุรกิจและการรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจภาพรวมได้แค่ใหนเป็นสำคัญ ระบบแฟรนไชส์นั้นจำเป็นต้องพึ่งพาความพร้อมของการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตที่เป็นวิถีการเป็นคนเมือง (Urbanization) การใช้ชีวิตในรูปแบบสมัยใหม่จะต้องใช้การให้บริการและการพัฒนาการลงทุนที่ปรับเข้ากับสภาวะสังคมใหม่ไปด้วย ธุรกิจแฟรนไชส์ที่สามารถขยายตัวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมวัฒนธรรม และธุรกิจจะต้องมีการปรับการบริหารจัดการทุกด้านให้เหมาะสมกับพื้นที่ ที่มีการขยายธุรกิจเข้าไปตลอดเวลา

2.การเติบโตของระบบแฟรนไชส์ในตลาดสากล

การคาดการณ์ระบบแฟรนไชส์ที่มีพื้นฐานการพัฒนาจากอเมริกาเป็นประเทศหลัก ดังนั้นศูนย์รวมด้านข้อมูลจึงเน้นการวิเคราะห์ตลาดแฟรนไชส์ในพื้นที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งการเติบโตแฟรนไชส์ในระบบสากลสามารถวิเคราะห์ภาพรวมจากการเติบโตธุรกิจในอเมริกาเป็นแนวดังนี้

การเติบโตแฟรนไชส์ใน สหรัฐอเมริกา ปี 2016 (คาดการณ์)

การรายงานสภาวะแฟรนไชส์เป็นการคาดการณ์ในปี 2016 ซึงเป็นการเก็บข้อมูลจาก สถาบัน IHS Economics ดำเนินการเพื่อนำเสนอ สมาคมแฟรนไชส์สากล ห่รือ International Franchise Association Educational Foundation.

โดยใช้ข้อมูลของปี 2015 เป็นพื้นฐาน ซึ่งพบว่าระบบธุรกิจแฟรนไชส์ในสหรัฐนั้นมีสภาวะการเติบดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบจากปี 2014 โดยมีรายละเอียดแยกตัวชี้วัดดังนี้

จำนวนของธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น 1.7% ในปี 2015,

การจ้างงานในระบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น (franchise employment was up) 3.0%,

มูลค่าธุรกิจแฟรนไชส์ภาพรวมเพิ่มขึ้น (franchise output grew) 5.6%.

ทั้งนี้ระบบแฟรนไชส์ที่มีการแบ่งประเภทธุรกิจหลักเป็น 10 ประเภทหลักดังนี้:

  1. ด้านรถยนต์ Automotive
  2. ด้านบริการ Business Services
  3. บริการบ้านพักที่อยู่อาศัย Commercial & Residential Services
  4. ด้านโรงแรม รีสอร์ท Lodging
  5. ด้านบริการบุคคล Personal Services
  6. ด้านอาหารจานด่วน Quick Service Restaurants
  7. ด้านร้านอาหารเต็มรูปแบบ Table/Full Service Restaurants
  8. อสังหาริมทรัพย์ Real Estate
  9. ด้านค้าปลีกกลุ่มอาหาร Retail Food
  10. ด้านค้าปลีกสินค้าและบริการทั่วไป Retail Products and Services

 

ตารางที่   แสดงการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์สหรัฐอเมริกา ในปี 2016 ตารางด้านล่างเป็นการแสดงถึงการเปรียบเทียบตัวชี้วัดในระบบแฟรนไชส์ระหว่างปี 2009-2016

การขยายตัวของระบบแฟรนไชส์นั้นจะคำนึงถึง อัตราการขยายตัวของแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีที่หมายถึง จำนวนสาขาของระบบธุรกิจที่มีการเติบโตเชิงจำนวนหรือ Establishments จากกราฟแสดงการขยายตัวของธุรกิจแฟรนไชส์สหรัฐอเมริกา จะเห็นการเติบโตเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ที่มีการขยายตัวร้อยละ 1.5 และมีการขยายตัวต่อเนื่อง จำนวนร้านค้าในระบบแฟรนไชส์มีจำนวนเกือบ 800,000 ร้านค้า (795,932 ร้านค้า) สอดคล้องกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รับรู้จากดัชนี GDP ของประเทศ มีการอ่อนตัวเล็กน้อยในช่วงปี 2013 และเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะอยู่ในระดับร้อยละ 1.7-2 จนถึงช่วงปี 2020

อัตราการจ้างงานของระบบแฟรนไชส์ในสหรัฐรองรับการจ้างงาน 9.1 ล้านคน โดยมีอัตราเติบโตถึงร้อยละ 3 แสดงถึงรูปแบบธุรกิจมีการพัฒนาด้านจำนวนสาขา การกระจายรายได้และการสร้างงาน เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ที่เป็นเป้าหมายสุดท้ายของประเทศ การส่งเสริมอย่างต่อเนื่องและการสร้างหน่วยงานทั้งภาคเอกชน และการกำกับดูแลของภาครัฐที่แข็งแรงขึ้นกระตุ้นการขยายตัวระบบธุรกิจได้อย่างดี

นอกจากนั้นมูลค่าของระบบธุรกิจมีการเติบโตร้อยละ 5.8 และมีมูลค่าที่ 944,000 ล้านเหรียฐสหรัฐ หรือประมาณ 33.04 ล้าน ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยนที่ 1ดอลลาห์เท่ากับ 35 บาท) อัตราการขยายตัวของรายได้ที่เกิดขึ้นจากระบบแฟรนไชส์สหรัฐนั้นมีแนวโน้มทิศทางเดียวกันกับอัตราเพิ่มขึ้นของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นข้อสังเกตของระบบแฟรนไชส์ในสหรัฐนั้น จะมีมูลค่าจากการบริหารธุรกิจผ่านรูปแบบการจัดเก็บรายได้จากต่างประเทศในรูปแบบของค่าธรรมเนียมในส่วนหนึ่ง ซึ่งจากรายงานของ IFA International Franchise Association ที่ให้ความเห็นว่า มูลค่าธุรกิจของแฟรนไชส์รายใหญ่ในอเมริกานั้นเกิดขึ้นจากรายได้ระบบแฟรนไชส์ต่างประเทศมากกว่ารายได้ในประเทศ เนื่องจากมีการขยายตัวของแฟรนไชส์ไปทั่วโลกและด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพของแฟรนไชส์สหรัฐจึงสามารถจัดเก็บและควบคุมระบบแฟรนไชส์ของตนได้อย่างดี

 

บทความโดย : ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ (CFE)

สนใจปรึกษาธุรกิจ ติดต่อสอบถาม : 099-615-2647

Line : @coachandconsulting

Facebook : https://www.facebook.com/coachandconsulting